เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.2 แมกนิจูดบริเวณวงแหวนแห่งไฟเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จุดกระแสความกังวลและทำให้คำว่า “tsunami ล่าสุด” ถูกค้นหาอย่างหนาแน่นอีกครั้ง แม้ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก (PTWC) จะยืนยันว่าคลื่นยักษ์ไม่เป็นภัยต่อชายฝั่งของประเทศไทย แต่แรงสั่นสะเทือนทางความรู้สึกได้ส่งมาถึงคนไทยอย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้เปรียบเสมือนการซ้อมใหญ่โดยธรรมชาติที่ตั้งคำถามสำคัญกลับมายังพวกเราทุกคนว่า: ผ่านมา 2 ทศวรรษหลังโศกนาฏกรรมปี 2547 ระบบ เตือนภัยสึนามิ และความพร้อมในการรับมือของประเทศไทยในวันนี้ อยู่ในระดับที่น่าไว้วางใจได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะเจาะลึกทุกมิติ ตั้งแต่สถานะของเทคโนโลยีตรวจจับ ไปจนถึงแผนอพยพที่เราต้องรู้
Tsunami ล่าสุด ถอดรหัสสถานการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด จุดเริ่มต้นของความกังวล
ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ศูนย์สำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ได้รายงานการเกิด แผ่นดินไหว รุนแรงขนาด 7.2 แมกนิจูด บริเวณร่องลึกเคอร์มาเดค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนว วงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) ที่ล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ทันทีที่เกิดเหตุ ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก (PTWC) ได้ออกประกาศเฝ้าระวังสำหรับประเทศและหมู่เกาะที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว แต่หลังจากประเมินข้อมูลจากทุ่นตรวจวัดแรงดันน้ำลึกและแบบจำลองคอมพิวเตอร์แล้ว PTWC ก็ได้ยืนยันว่าไม่พบการก่อตัวของคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ที่จะเป็นอันตรายในวงกว้าง และยกเลิกการเฝ้าระวังในเวลาต่อมา
สำหรับประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งทำหน้าที่ติดตามและแจ้ง ข่าวสึนามิ โดยตรง ได้ออกมายืนยันอย่างรวดเร็วว่า สถานการณ์สึนามิวันนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อชายฝั่งของไทยทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นบททดสอบสำคัญต่อระบบการสื่อสารและการประเมินสถานการณ์ของหน่วยงานไทยไปโดยปริยาย
เจาะระบบเตือนภัยสึนามิไทย ความพร้อมที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
หัวใจสำคัญของระบบเตือนภัยสึนามิของไทยคือเทคโนโลยีที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยเห็นแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
- ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ (Tsunami Detection Buoys) หลังเหตุการณ์ปี 2547 ประเทศไทยได้ติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดีย ทุ่นเหล่านี้ทำหน้าที่ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของแรงดันน้ำในระดับน้ำลึกที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ของการเกิดคลื่นสึนามิ ข้อมูลจากทุ่นจะถูกส่งผ่านดาวเทียมมายัง ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แบบเรียลไทม์ เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง
- ความท้าทายล่าสุด มีรายงานและข้อกังวลจากสังคมเป็นระยะเกี่ยวกับสถานะการทำงานของทุ่นเหล่านี้ ซึ่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้ดูแล ได้ชี้แจงว่ามีการบำรุงรักษาและประสานงานกับหน่วยงานต่างประเทศเพื่อแบ่งปันข้อมูลจากทุ่นของประเทศอื่นในภูมิภาค ทำให้แม้ทุ่นบางตัวอาจอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง แต่โครงข่ายข้อมูลโดยรวมยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบแจ้งเตือนภัยสู่ประชาชน เมื่อมีการยืนยันความเสี่ยงในการเกิดสึนามิ ข้อมูลจะถูกส่งจากส่วนกลางไปยังหอเตือนภัยที่ติดตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่ง พื้นที่เสี่ยงสึนามิในประเทศไทย ทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน
- ขั้นตอนการทำงาน
- ไซเรนและเสียงประกาศ หอเตือนภัยจะส่งเสียงไซเรนที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเสียงประกาศหลายภาษา (ไทย, อังกฤษ, จีน, และอื่นๆ) เพื่อแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว
- SMS Alert ระบบจะส่งข้อความเตือนภัยฉุกเฉินไปยังโทรศัพท์มือถือในพื้นที่เสี่ยง
- การแจ้งเตือนผ่านสื่อ สถานีโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ จะช่วยกระจาย ข่าวสึนามิ และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างเร่งด่วน
โอกาสเกิดสึนามิในไทย 2568 ความเสี่ยงที่ต้องประเมินตามหลักวิทยาศาสตร์
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “โอกาสเกิดสึนามิในไทย 2568” หรือในอนาคตอันใกล้มีมากน้อยเพียงใด ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ความเสี่ยงจาก แผ่นดินไหว ที่จะก่อให้เกิดสึนามิในฝั่งอันดามันของไทยยังคงมีอยู่จริง โดยมีแหล่งกำเนิดหลัก 2 แห่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ
- ร่องลึกซุนดา (Sunda Trench) เป็นแหล่งกำเนิดของสึนามิเมื่อปี 2547 และยังคงมีการสะสมพลังงานอย่างต่อเนื่อง
- รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) แม้จะอยู่บนบกในประเทศเมียนมา แต่หากเกิดการขยับตัวรุนแรงก็สามารถส่งผลกระทบถึงไทยได้
อย่างไรก็ตาม การระบุช่วงเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำนั้นเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมรับมืออยู่เสมอ เพราะภัยพิบัติไม่เคยแจ้งล่วงหน้า
วิธีรับมือสึนามิ ต้องทำอย่างไร? คู่มือเอาตัวรอดฉบับประชาชน
การตื่นตัวและรู้ วิธีรับมือสึนามิ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดความสูญเสียได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ให้คำแนะนำที่ชัดเจนดังนี้
- เมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยงชายฝั่ง
- รับรู้สัญญาณเตือนทางธรรมชาติ หากรู้สึกถึง แผ่นดินไหว ที่รุนแรงจนยืนไม่อยู่ หรือเห็นน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดสึนามิ และอพยพขึ้นที่สูงทันทีโดยไม่ต้องรอประกาศทางการ
- ฟังประกาศจากทางการ ปฏิบัติตามคำแนะนำจาก เตือนภัยสึนามิ ที่ประกาศผ่านหอเตือนภัยหรือสื่อต่างๆ
- ขั้นตอนการอพยพ
- หนีขึ้นที่สูง อพยพไปยังพื้นที่สูงหรืออาคารหลบภัยสึนามิที่จัดเตรียมไว้โดยเร็วที่สุด
- หนีให้ไกลจากชายฝั่ง หากไม่มีที่สูง ให้เคลื่อนที่ลึกเข้ามาในแผ่นดินให้ไกลจากชายหาดและปากแม่น้ำให้มากที่สุด
- ติดตามข่าวสาร เมื่อถึงที่ปลอดภัยแล้ว ให้ติดตาม สถานการณ์สึนามิวันนี้ อย่างต่อเนื่องจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ และรอจนกว่าทางการจะประกาศว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจึงกลับเข้าพื้นที่
บทสรุปและแนวโน้มอนาคต จากความตระหนกสู่ความตระหนักรู้
เหตุการณ์ tsunami ล่าสุด ที่มีจุดกำเนิดไกลตัว แต่ส่งแรงกระเพื่อมทางความกังวลมาถึงประเทศไทย เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าโลกของเราเชื่อมต่อกันด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้ระบบเตือนภัยของไทยจะถูกพัฒนาขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2547 แต่ความท้าทายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งาน 100% ตลอดเวลา และการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวยังคงเป็นภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนผ่านจาก “ความตื่นตระหนก” เมื่อเกิดเหตุ ไปสู่ “ความตระหนักรู้” ในการเตรียมพร้อมอยู่เสมอ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่ประเทศไทยและประชาชนทุกคนจะสามารถสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่อาจมาเยือนโดยไม่คาดคิดในอนาคต การลงทุนในเทคโนโลยี การซ้อมอพยพอย่างสม่ำเสมอ และการให้ความรู้ที่ถูกต้อง คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตการณ์ไปได้อย่างปลอดภัย
แหล่งที่มาจาก : immersia