กองทัพอากาศไทยได้เปิดเผยทิศทางอนาคตครั้งสำคัญ ผ่านการเผยแพร่ “สมุดปกขาวกองทัพอากาศ พ.ศ. 2568” ซึ่งเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวที่จะกำหนดชะตากรรมของรั้วของชาติทางอากาศในทศวรรษหน้า เอกสารฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงแผนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ แต่คือการประกาศ “ปฏิวัติ” ทางความคิดครั้งใหญ่ ส่งสัญญาณการเปลี่ยนผ่านจากกองทัพที่เน้นหนักด้านการรบทางอากาศแบบดั้งเดิม สู่การเป็นกองทัพที่พร้อมรบใน 3 มิติ “อากาศ-อวกาศ-ไซเบอร์” อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมให้ความกระจ่างที่ทุกคนรอคอยเกี่ยวกับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่
ในยุคที่ ความมั่นคงของชาติ ถูกท้าทายจากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มองไม่เห็น ทั้งสงครามไซเบอร์, การแข่งขันทางเทคโนโลยีอวกาศ, และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน สมุดปกขาว 2568 คือคำตอบของ กองทัพอากาศ ต่อความท้าทายเหล่านี้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงแก่นสารสำคัญของแผนแม่บทฉบับประวัติศาสตร์นี้ เพื่อให้คนไทยได้เห็นภาพอนาคตของกองทัพผู้พิทักษ์น่านฟ้าของเรา
เปิด “สมุดปกขาว 2568” แผนแม่บทพลิกโฉมกองทัพอากาศไทย
สมุดปกขาว (White Paper) ในทางทหาร คือเอกสารนโยบายที่รัฐบาลหรือกองทัพจัดทำขึ้นเพื่อแถลงยุทธศาสตร์, สถานการณ์ด้านความมั่นคง, และแผนการพัฒนาศักยภาพให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างเป็นทางการ สำหรับสมุดปกขาว 2568 ของกองทัพอากาศ มีวิสัยทัศน์หลักคือการมุ่งสู่ “หนึ่งในกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน” (One of the Best Air Forces in ASEAN) ภายในปี พ.ศ. 2580 โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การพัฒนากองทัพใน 3 มิติหลัก
เจาะ 3 ยุทธศาสตร์หลัก ก้าวสู่มิติ “อากาศ-อวกาศ-ไซเบอร์”
นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด ที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนากำลังรบของกองทัพอากาศในอนาคต
1. มิติทางอากาศ (Air Domain) สานฝัน “เครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่”
ประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดคือ โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ ซึ่งสมุดปกขาวฉบับนี้ได้ให้ความชัดเจนว่า
- ความจำเป็น เพื่อทดแทนฝูงเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 ADF (ฝูงบิน 102 กองบิน 1) ที่รับใช้ชาติมานานและจะครบกำหนดปลดประจำการในปี พ.ศ. 2575
- คุณสมบัติที่ต้องการ เครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ (Multirole) สมรรถนะสูง ที่จัดอยู่ในยุคที่ 4.5 (Gen 4.5) หรือ ยุคที่ 5 (Gen 5) ซึ่งสามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย ทั้งการครองอากาศ, การโจมตีภาคพื้นดิน, และการลาดตระเวน
- ตัวเลือกที่เป็นไปได้ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อรุ่นโดยตรง แต่คุณสมบัติดังกล่าวทำให้ตัวเลือกยังคงเป็นการแข่งขันระหว่าง Saab Gripen E/F จากสวีเดน และ F-16 Block 70/72 หรือ F-35 จากสหรัฐอเมริกา ซึ่ง ทอ. จะต้องพิจารณาจากความคุ้มค่า, เงื่อนไขการถ่ายทอดเทคโนโลยี, และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไป
2. มิติทางอวกาศ (Space Domain) จากผืนฟ้าสู่ห้วงอวกาศ
นี่คือมิติใหม่ที่ถูกยกระดับความสำคัญขึ้นอย่างเป็นทางการ กองทัพอากาศตระหนักดีว่า “ผู้ที่ควบคุมอวกาศได้ คือผู้กุมความได้เปรียบ”
- เป้าหมาย พัฒนาขีดความสามารถในการใช้ประโยชน์จากอวกาศเพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหารและความมั่นคงของชาติ
- โครงการสำคัญ
- ดาวเทียมสำรวจ จัดหาดาวเทียมเพื่อการลาดตระเวนและถ่ายภาพทางอากาศความละเอียดสูง เพื่อการข่าวกรองและการชี้เป้าหมาย
- ดาวเทียมสื่อสาร สร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นอิสระของกองทัพ
- การเฝ้าระวังทางอวกาศ (Space Situational Awareness) พัฒนาระบบติดตามวัตถุในอวกาศ เพื่อป้องกันภัยคุกคามต่อดาวเทียมของไทย
3. มิติทางไซเบอร์ (Cyber Domain) สมรภูมิที่มองไม่เห็น
สมุดปกขาวระบุชัดเจนว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์คือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติรูปแบบใหม่ที่อันตรายอย่างยิ่ง
- เป้าหมาย พัฒนาขีดความสามารถในการป้องกัน, ตรวจจับ, และตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบบัญชาการและควบคุม, ระบบเครือข่าย, และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของกองทัพอากาศ
- การดำเนินงาน จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์ของกองทัพอากาศ” (RTAF Cyber Operations Center) ให้มีสถานะเป็นหน่วยงานหลัก และพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านไซเบอร์โดยเฉพาะ
โครงสร้างกำลังรบในอนาคต อากาศยานไร้คนขับ (UAV) และเครือข่ายอัจฉริยะ
นอกจากการพัฒนากำลังรบใน 3 มิติหลักแล้ว สมุดปกขาวยังเน้นย้ำถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างกำลังรบ เช่น
- อากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพิ่มบทบาทของ UAV ในภารกิจลาดตระเวน, เฝ้าตรวจ, และอาจรวมถึงภารกิจโจมตีในอนาคต เพื่อลดความเสี่ยงของนักบิน
- ระบบบัญชาการแบบเครือข่าย (Network Centric Operations) พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องบิน, สถานีเรดาร์ภาคพื้น, และศูนย์บัญชาการ ให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจ จาก “บุพการีทหารอากาศ” สู่ยุคดิจิทัล
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ตั้งอยู่บนรากฐานแห่งประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจของกองทัพอากาศไทย นับตั้งแต่ นายทหาร 3 นาย คือ พลอากาศโท พระยาเฉลิมอากาศ, นาวาอากาศเอก พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ และนาวาอากาศเอก พระยาทะยานพิฆาต ผู้ได้รับการยกย่องเป็น “บุพการีทหารอากาศ” ที่ได้วางรากฐานกิจการการบินในสยาม จนมาถึงวีรกรรมของวีรบุรุษในสมรภูมิต่างๆ กองทัพอากาศได้ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง และสมุดปกขาวฉบับนี้คือบทพิสูจน์ล่าสุดของวิวัฒนาการที่ไม่เคยหยุดนิ่งนั้น
บทสรุป วิสัยทัศน์เพื่ออนาคตของน่านฟ้าไทย
“สมุดปกขาวกองทัพอากาศ 2568” เป็นมากกว่าแผนการใช้จ่ายงบประมาณ แต่คือคำประกาศถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของกองทัพอากาศที่จะปรับตัวและพัฒนาตนเองให้เท่าทันโลกและภัยคุกคามรูปแบบใหม่
แม้หัวข้อที่น่าตื่นเต้นอย่าง เครื่องบินขับไล่ ฝูงใหม่จะได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นพิเศษ แต่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์สู่มิติอวกาศและไซเบอร์ คือหัวใจที่แท้จริงของการปฏิรูปในครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อ ความมั่นคงของชาติ ในระยะยาวอย่างประเมินค่าไม่ได้ ความสำเร็จในการผลักดันวิสัยทัศน์นี้ให้เป็นจริง จะเป็นหลักประกันที่สำคัญที่สุดให้แก่สันติสุขและอธิปไตยของประเทศไทยในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า
แหล่งที่มาจาก : immersia