จอนนี่มือปราบ มหากาพย์จากตำรวจฮีโร่ สู่ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินร้อยล้าน เขย่าศรัทธาสังคม

ข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการสีกากีและโลกโซเชียล เมื่อ “จอนนี่มือปราบ” หรือ ด.ต. ยุทธพล ศรีสมพงษ์ ตำรวจอินฟลูเอนเซอร์ขวัญใจมหาชน ถูกตำรวจไซเบอร์บุกเข้าตรวจค้นพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาพัวพันเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และคดีฟอกเงินมูลค่ามหาศาล นี่ไม่ใช่แค่คดีอาชญากรรมธรรมดา แต่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ท้าทายภาพลักษณ์ “ฮีโร่” ที่เขาสร้างมากับมือ และจุดประกายคำถามถึงเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กับการเป็นนักธุรกิจ บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของมหากาพย์นี้ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงสถานการณ์ล่าสุด

นับเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง จากตำรวจบ้านๆ ในจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ใช้ โซเชียลมีเดีย เป็นเครื่องมือช่วยเหลือประชาชน สร้างภาพลักษณ์ตำรวจน้ำดีจนมีผู้ติดตามหลายล้านคน สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจสถานบันเทิงยักษ์ใหญ่ และล่าสุด ในฐานะผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ที่สังคมกำลังจับตามอง เส้นทางชีวิตของ ด.ต. ยุทธพล ศรีสมพงษ์ ซับซ้อนและน่าติดตามยิ่งกว่าละครเรื่องใดๆ

เกิดอะไรขึ้น? สรุปปฏิบัติการ “ปิดเมืองล่า” ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์

ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ได้เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ เข้าตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดในจังหวัด อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “KingCob88” ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ทำให้สาธารณชนตกตะลึง คือการนำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบสถานบันเทิงชื่อดัง “ตะวันแดง มหาซน ณ อุบล” และบ้านพักส่วนตัวของ จอนนี่มือปราบ ผลจากการตรวจค้นนำไปสู่การอายัดทรัพย์สินจำนวนมากเพื่อตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุด คือการแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน และร่วมกันฟอกเงิน”

พล.ต.ท. … (ผู้บัญชาการ บช.สอท.) ได้แถลงข่าวในวันต่อมาว่า “จากการสืบสวนขยายผลเส้นทางการเงินของเครือข่ายพนัน เราพบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนมายังธุรกิจสถานบันเทิงของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นการนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดมาแปรสภาพให้เป็นทรัพย์สินที่ถูกกฎหมาย”

ย้อนเส้นทาง จอนนี่มือปราบ คือใคร?

ก่อนจะเกิดมหากาพย์คดีความนี้ ชื่อของ “จอนนี่มือปราบ” คือสัญลักษณ์ของตำรวจยุคใหม่ที่เข้าถึงประชาชน ประวัติ จอนนี่มือปราบ หรือ ด.ต. ยุทธพล ศรีสมพงษ์ เริ่มต้นจากการเป็นตำรวจชั้นประทวนธรรมดา สังกัด สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

• จุดเริ่มต้นบนโลกออนไลน์ เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากการใช้เฟซบุ๊กไลฟ์สดขณะปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่าคนร้าย การพูดคุยด้วยภาษาบ้านๆ จริงใจ และการทำงานแบบถึงลูกถึงคน ทำให้คลิปของเขาโด่งดังและกลายเป็นไวรัล

• การสร้างภาพลักษณ์ “ตำรวจน้ำดี” จอนนี่มือปราบมักจะปรากฏตัวช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นการจับงู, ช่วยคนรถเสีย, ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท, หรือแม้กระทั่งการมอบทุนและสิ่งของให้กับผู้ยากไร้ ภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง สร้างฐานแฟนคลับและผู้ศรัทธาได้อย่างรวดเร็ว

• สู่การเป็น “ตำรวจอินฟลูเอนเซอร์” ด้วยยอดผู้ติดตามที่พุ่งสูงหลายล้านคน ทำให้เขากลายเป็น ตำรวจอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของไทย เขามีสินค้าเป็นของตัวเอง และใช้ชื่อเสียงต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำเขาไปสู่เส้นทางที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

“ตะวันแดง มหาซน ณ อุบล” อาณาจักรธุรกิจที่กลายเป็นจุดเปลี่ยน

ความสำเร็จในโลกออนไลน์ได้เปิดประตูสู่โลกธุรกิจให้กับ ด.ต. ยุทธพล เขาได้ทุ่มเงินลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างอาณาจักรสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน นั่นคือ “ตะวันแดง มหาซน ณ อุบล”

สถานบันเทิงแห่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว กลายเป็นแลนด์มาร์กยามค่ำคืนของเมืองอุบลฯ สามารถดึงดูดศิลปินชื่อดังระดับประเทศมาเปิดการแสดงได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้เองที่ดึงดูดความสนใจจากหน่วยงานตรวจสอบ และในท้ายที่สุด ก็กลายเป็นศูนย์กลางของ คดีตะวันแดงอุบล ที่ตำรวจไซเบอร์เชื่อว่าเป็นสถานีปลายทางของเส้นทางเงินจาก เว็บพนันออนไลน์

ธุรกิจนี้ได้เปลี่ยนภาพของ “จอนนี่มือปราบ” จากตำรวจติดดิน กลายเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่งและมีเครือข่ายกว้างขวาง ซึ่งสร้างทั้งความชื่นชมและความเคลือบแคลงสงสัยในเวลาเดียวกัน

เปิดคำต่อคำ “จอนนี่” ยืนยันความบริสุทธิ์ VS ตำรวจไซเบอร์แฉเส้นทางการเงิน

สถานการณ์ปัจจุบันเปรียบเสมือนหนังคนละม้วน ที่ทั้งสองฝ่ายต่างนำเสนอเรื่องราวจากมุมของตนเอง

• ฝั่งจอนนี่มือปราบ หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เขาได้ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง
  “พี่น้องที่เคารพรัก ผม ด.ต. ยุทธพล ขอยืนยันว่าผมไม่เคยทรยศต่ออุดมการณ์ตำรวจและประชาชน ผมสร้างตะวันแดงขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรง จากเงินที่เก็บหอมรอมริบและกู้ยืมมาอย่างถูกกฎหมาย ผมไม่เคยรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ คดีฟอกเงิน หรือเว็บพนัน ผมพร้อมจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล และขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งตัดสินผมจากข่าวที่ออกมา”

• ฝั่งตำรวจไซเบอร์ ในการแถลงข่าว ได้มีการนำเสนอแผนผังเส้นทางการเงิน (ซึ่งยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดต่อสาธารณะ) โดยชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติ
  “เราพบว่ามีเงินจากบัญชีม้าของเครือข่ายพนัน ถูกโอนเข้ามายังบัญชีบุคคลและนิติบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาเป็นทอดๆ ในลักษณะที่ผิดวิสัยของการทำธุรกิจปกติ ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินอย่างชัดเจน เรามั่นใจในพยานหลักฐานที่มี และจะขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด”

การต่อสู้ทางคดีเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และสังคมคงต้องรอการพิสูจน์จากกระบวนการยุติธรรมต่อไป

วิเคราะห์ปรากฏการณ์ “ตำรวจอินฟลูเอนเซอร์” ดาบสองคมแห่งโลกโซเชียล

กรณีของ “จอนนี่มือปราบ” ไม่ใช่แค่เรื่องราวของบุคคลคนหนึ่ง แต่เป็นภาพสะท้อนของปรากฏการณ์ “ตำรวจอินฟลูเอนเซอร์” ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

• ข้อดี ช่วยลดช่องว่างระหว่างตำรวจกับประชาชน สร้างความเข้าใจอันดี และใช้เป็นช่องทางสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ

• ข้อเสีย (ดาบสองคม)

• ผลประโยชน์ทับซ้อน การมีชื่อเสียงอาจนำไปสู่การรับงานโฆษณาหรือทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งอาจเกิดคำถามถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ทับซ้อนกับตำแหน่งหน้าที่ราชการ

• การตรวจสอบที่เข้มข้น การเป็นบุคคลสาธารณะทำให้ทุกการกระทำถูกจับจ้อง และเมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือข้อกล่าวหา ผลกระทบก็จะรุนแรงกว่าคนทั่วไป

• ความเสี่ยงในการถูกใช้เป็นเครื่องมือ ชื่อเสียงอาจถูกเครือข่ายผิดกฎหมายเข้ามาแสวงหาประโยชน์โดยที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัว หรือรู้เห็นเป็นใจก็ได้

กรณีนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับข้าราชการที่ใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างตัวตน ว่าจำเป็นต้องมีความระมัดระวังและรักษาความโปร่งใสอย่างสูงสุด

บทสรุป อนาคตของ “จอนนี่มือปราบ” และบทเรียนสู่สังคม

สถานการณ์ จอนนี่มือปราบล่าสุด ยังคงอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย เขายังคงเป็น “ผู้บริสุทธิ์” จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ “ศรัทธา” ของสังคมที่มีต่อตัวเขาได้ถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง

มหากาพย์ครั้งนี้เป็นมากกว่าคดีอาชญากรรม แต่เป็นกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนให้สังคมไทยได้เห็นถึงความซับซ้อนของโลกยุคใหม่ ที่ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างหน้าที่, ชื่อเสียง, ธุรกิจ และอำนาจมืด สามารถพร่าเลือนเข้าหากันได้อย่างง่ายดาย อนาคตของ ด.ต. ยุทธพล ศรีสมพงษ์ จะเป็นอย่างไร มีเพียงกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ แต่บทเรียนจากเรื่องราวของเขาจะยังคงอยู่เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้สังคมได้ขบคิดต่อไปอีกนาน

แหล่งที่มาจาก : immersia