Breaking
1 Aug 2025, Fri

นาฬิกาวันสิ้นโลก 2025 ถอดรหัส 90 วินาทีสู่หายนะ กับผลกระทบที่คนไทยต้องเผชิญ

นาฬิกาวันสิ้นโลก

ในปี 2025, “นาฬิกาวันสิ้นโลก” (Doomsday Clock) สัญลักษณ์เตือนภัยมนุษยชาติที่ทรงพลังที่สุด ยังคงหยุดนิ่งอยู่ที่ 90 วินาทีก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นระยะห่างจาก “จุดสิ้นสุด” ที่ใกล้ที่สุดในประวัติศาสตร์ 78 ปี การไม่ขยับของเข็มนาฬิกาไม่ใช่สัญญาณแห่งความโล่งใจ แต่คือเสียงยืนยันอันน่ากังวลจาก Bulletin of the Atomic Scientists ว่าโลกยังคงจมอยู่ใน “สภาวะอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามนิวเคลียร์, วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรง และเทคโนโลยีป่วนโลกอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวคนไทยมากกว่าที่เคยเป็น

บทความชิ้นนี้จะไม่ได้หยุดอยู่แค่การรายงานข่าว แต่จะวิเคราะห์เจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้เรายังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย และที่สำคัญที่สุดคือการสำรวจว่า ความเสี่ยงระดับโลก (Global Risks) เหล่านี้ กำลังแปรเปลี่ยนเป็นวิกฤตหน้าบ้านที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศไทยอย่างไร

นาฬิกาวันสิ้นโลกขยับเข็มมาอยู่ใกล้เที่ยงคืน

ถอดรหัส 90 วินาที ทำไมโลกยังคงไม่ปลอดภัย?

การตัดสินใจคงเวลาไว้ที่ 90 วินาทีเป็นปีที่สามติดต่อกัน มาจากการประเมินอย่างเข้มข้นของคณะนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระดับโลก โดยพิจารณาจาก “ภัยคุกคามไตรภาคี” (A triad of threats) ที่ยังคงคุกคามการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ

  1. เงามืดของสงครามนิวเคลียร์ที่ไม่จางหาย

แม้ความสนใจของสื่อทั่วโลกอาจลดลง แต่สงครามในยูเครนยังคงดำเนินไปอย่างไม่ลดละ พร้อมกับการใช้วาทกรรมข่มขู่ทางนิวเคลียร์จากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้สร้างบรรทัดฐานที่อันตรายและกัดกร่อนข้อตกลงควบคุมอาวุธที่มีมานานหลายทศวรรษ นอกจากนี้ ความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นในตะวันออกกลางและพื้นที่อื่นๆ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่การเผชิญหน้าจะบานปลายไปสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยไม่ตั้งใจ

  • Rachel Bronson, ประธานและ CEO ของ Bulletin of the Atomic Scientists กล่าวในการแถลงข่าวว่า “วาทกรรมเรื่องนิวเคลียร์จากผู้นำบางประเทศได้ทำให้ความเป็นไปได้ของการใช้อาวุธนิวเคลียร์กลับมาอยู่ในจุดที่น่ากังวลที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น”
  1. วิกฤตสภาพภูมิอากาศ เมื่อโลกเดือดจนถึงจุดเดือด

ปี 2024 ถูกบันทึกว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ และแนวโน้มยังคงน่าเป็นห่วงในปี 2025 โลกกำลังเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้วอย่างที่ไม่เคยปรากฏ ตั้งแต่คลื่นความร้อนมรณะในยุโรปและเอเชีย, ไฟป่าขนาดมหึมาในอเมริกาเหนือ, ไปจนถึงอุทกภัยรุนแรงที่ทำลายล้างชุมชนทั่วโลก

  • ความล้มเหลวในการดำเนินการ แม้จะมีการประชุม COP อย่างต่อเนื่อง แต่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น การลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงมากกว่าการลงทุนในพลังงานสะอาดอย่างมีนัยสำคัญ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า “หน้าต่างแห่งโอกาส” ในการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสกำลังจะปิดลงอย่างรวดเร็ว
  1. เทคโนโลยีป่วนโลก AI, ข้อมูลบิดเบือน และภัยชีวภาพ

ความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นดาบสองคมที่น่าสะพรึงกลัว ความสามารถในการสร้างข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) และข่าวปลอม (Fake News) ที่สมจริงอย่างยิ่งยวด กำลังกัดเซาะความเชื่อมั่นในสถาบันประชาธิปไตยและสื่อสารมวลชนทั่วโลก

  • ภัยคุกคามจาก AI ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า AI อาจถูกใช้เพื่อเร่งการพัฒนาอาวุธอัตโนมัติ (Autonomous Weapons) หรือแม้กระทั่งทำให้การควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ซับซ้อนและเสี่ยงต่อความผิดพลาดมากขึ้น
  • เทคโนโลยีชีวภาพ ความก้าวหน้าทางพันธุวิศวกรรมและการสังเคราะห์ไวรัสในห้องปฏิบัติการ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรืออุบัติเหตุ

รู้จักกับ Doomsday Clock นาฬิกาบอกหายนะวันสิ้นโลก - Mission To The Moon  Media

จาก ‘นาฬิกาโลก’ สู่ ‘วิกฤตหน้าบ้าน’ ผลกระทบที่คนไทยต้องเผชิญ

แม้ นาฬิกาวันสิ้นโลก จะเป็นสัญลักษณ์ที่ดูห่างไกล แต่รากของปัญหาที่ขับเคลื่อนเข็มนาฬิกานั้นได้หยั่งลึกลงในสังคมไทยแล้วอย่างชัดเจน

  1. สภาพอากาศสุดขั้ว เมื่อภัยแล้งและน้ำท่วมกลายเป็นเรื่องปกติใหม่

วิกฤต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่แค่เรื่องอุณหภูมิโลก แต่คือความจริงที่เกษตรกรไทยต้องเผชิญกับภัยแล้งที่ยาวนานขึ้น สลับกับอุทกภัยฉับพลันที่สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจประเทศ

  • ผลกระทบ
    • ความมั่นคงทางอาหาร ผลผลิตข้าว, อ้อย, และผลไม้ลดลง ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกรและราคาอาหารในประเทศ
    • เมืองใหญ่จมน้ำ กรุงเทพมหานครและเมืองชายฝั่งอื่นๆ เผชิญความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและปัญหาน้ำท่วมขังที่รุนแรงขึ้นทุกปี
    • วิกฤตสาธารณสุข ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงขึ้นจากสภาพอากาศที่นิ่งและแห้งแล้ง และโรคระบาดที่มากับอากาศร้อนชื้น
  1. AI ดาบสองคม สมรภูมิข้อมูลข่าวสารและความมั่นคงที่สั่นคลอน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้โซเชียลมีเดียหนาแน่นที่สุดในโลก ทำให้กลายเป็นเป้าหมายที่เปราะบางอย่างยิ่งต่อขบวนการสร้างข้อมูลบิดเบือนโดยใช้ AI

  • ผลกระทบ
    • ความแตกแยกทางสังคม การใช้ Deepfake และข่าวปลอมเพื่อโจมตีทางการเมือง สร้างความเกลียดชัง และบั่นทอนความสามัคคีของคนในชาติ
    • อาชญากรรมไซเบอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพออนไลน์ใช้ AI ในการสร้างเรื่องราวหลอกลวงที่แนบเนียนขึ้น ทำให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินมหาศาล
    • ความมั่นคงของชาติ การแทรกแซงจากต่างชาติผ่านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) เพื่อหวังผลทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ กลายเป็นภัยคุกคามที่จับต้องได้ยากแต่ส่งผลกระทบร้ายแรง
  1. ความเปราะบางทางเศรษฐกิจในสมรภูมิโลก

ในฐานะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นอย่างสูง เศรษฐกิจไทยจึงผูกติดกับเสถียรภาพของโลกอย่างแยกไม่ออก

  • ผลกระทบ
    • พลังงานและค่าครองชีพ สงครามในยูเครนและตะวันออกกลางส่งผลโดยตรงต่อราคาพลังงานโลก ทำให้ราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าในไทยพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนทุกคน
    • ห่วงโซ่อุปทาน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์กระทบต่อการขนส่งและห่วงโซ่อุปทานโลก ทำให้ต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมไทยสูงขึ้น
    • การท่องเที่ยว ความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของประเทศ

เข็ม "นาฬิกาวันสิ้นโลก" ขยับมาที่ 89 วิก่อนหายนะ น้อยสุดเป็นประวัติการณ์ -  Pantip

ประวัติศาสตร์บนหน้าปัด การเดินทางของนาฬิกาวันสิ้นโลก

สัญลักษณ์วันสิ้นโลก นี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1947 โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำงานในโครงการแมนฮัตตัน (ผู้สร้างระเบิดปรมาณูลูกแรก) เพื่อเตือนสาธารณชนถึงอันตรายของอาวุธนิวเคลียร์

  • จุดเริ่มต้น ตั้งไว้ที่ 7 นาทีก่อนเที่ยงคืน
  • จุดที่ปลอดภัยที่สุด 17 นาทีก่อนเที่ยงคืน (ปี 1991) หลังสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียตลงนามในสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ (START I) ซึ่งเป็นสัญญาณการสิ้นสุดของสงครามเย็น
  • จุดที่อันตรายที่สุด 90 วินาทีก่อนเที่ยงคืน (ปี 2023 – ปัจจุบัน) จากภัยคุกคามไตรภาคีที่กล่าวมาข้างต้น

การเดินทางของเข็มนาฬิกาตลอด 78 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวและความสำเร็จในการจัดการ ความเสี่ยงระดับโลก ของมนุษยชาติได้อย่างชัดเจน

บทสรุปและแนวโน้ม เราจะหมุนเข็มนาฬิกากลับได้อย่างไร?

การที่เข็มนาฬิกายังคงอยู่ที่ 90 วินาที ไม่ใช่คำพิพากษาถึงจุดจบ แต่เป็น “เสียงเรียกร้องให้ลงมือทำอย่างเร่งด่วนที่สุด” (A call to action) จากคณะนักวิทยาศาสตร์

Bulletin of the Atomic Scientists ได้เสนอแนวทางให้ผู้นำโลกและประชาชนร่วมกันผลักดันเข็มนาฬิกาให้ถอยห่างจากเที่ยงคืน ดังนี้

  • ด้านนิวเคลียร์ รื้อฟื้นการเจรจาทางการทูตและข้อตกลงควบคุมอาวุธ
  • ด้านสภาพอากาศ เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังตามเป้าหมายข้อตกลงปารีส
  • ด้านเทคโนโลยี สร้างกฎเกณฑ์และสถาบันระดับโลกเพื่อกำกับดูแลเทคโนโลยี AI และชีวภาพ เพื่อลดความเสี่ยงและส่งเสริมการใช้งานอย่างมีจริยธรรม

สำหรับประเทศไทย การตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่เชื่อมโยงกันระหว่างวิกฤตโลกและปัญหาในประเทศคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด การสร้างสังคมที่รู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) การปรับตัวของภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการที่ภาครัฐต้องมีนโยบายต่างประเทศที่ยืดหยุ่นและนโยบายในประเทศที่เข้มแข็ง คือทางรอดเดียวที่จะนำพาเราให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่อันตรายนี้ไปได้

นาฬิกาวันสิ้นโลก ไม่ใช่เครื่องมือพยากรณ์อนาคต แต่เป็นกระจกสะท้อนการกระทำในปัจจุบันของเราทุกคน เข็มนาฬิกาจะขยับเข้าใกล้หรือถอยห่างจากเที่ยงคืน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการลงมือทำของเราตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป

แหล่งที่มาจาก : immersia