Breaking
1 Aug 2025, Fri

โดรนกามิกาเซ DTI พัฒนาสำเร็จ! เปิดศักยภาพ “โดรนพิฆาต” สัญชาติไทย อาวุธเปลี่ยนเกมในสนามรบ

โดรนกามิกาเซ

หน้าประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยได้ถูกเปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง เมื่อสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาและทดสอบ “โดรนพิฆาต” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โดรนกามิกาเซ” (Kamikaze Drone) รุ่นต้นแบบสัญชาติไทยได้เป็นผลสำเร็จ นี่ไม่ใช่แค่ข่าวการสร้างอาวุธใหม่ แต่คือการประกาศกร้าวว่าประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่ยุคใหม่ของสงครามที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และพึ่งพาตนเองในการปกป้องอธิปไตย บทความนี้จะเจาะลึกถึงอาวุธเปลี่ยนเกมชนิดนี้ ตั้งแต่ที่มา, วิธีการทำงาน, บทเรียนจากสมรภูมิโลก, และที่สำคัญที่สุดคือศักยภาพของมันในมือของกองทัพไทย

ในยุคที่ สงครามสมัยใหม่ ไม่ได้วัดกันที่ขนาดของกองทัพหรือจำนวนรถถังอีกต่อไป แต่คือความสามารถในการโจมตีที่แม่นยำ, รวดเร็ว, และคุ้มค่า โดรนกามิกาเซ ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ และการที่ไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้เอง ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการทหารของประเทศไปตลอดกาล

Iranian-made drones are a headache for Ukraine's Air Force – spokesman |  Ukrainska Pravda

เปิดตัว “โดรนพิฆาต” สัญชาติไทย ความสำเร็จครั้งสำคัญของ DTI

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาหลักของ กระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ภาพและข้อมูลการทดสอบ “อากาศยานไร้คนขับเพื่องการโจมตีแบบพลีชีพ” รุ่นต้นแบบ โดยชูจุดเด่นในฐานะอาวุธทางยุทธวิธีที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของ กองทัพไทย โดยเฉพาะ

โครงการนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบุคลากรไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง และเป็นหมุดหมายสำคัญของนโยบาย “การพึ่งพาตนเองทางทหาร” (Military Self-Reliance) ที่จะช่วยลดงบประมาณในการนำเข้าอาวุธราคาแพงจากต่างประเทศ

เจาะลึก “โดรนกามิกาเซ” หรือ “Loitering Munition” มันคืออะไร?

ก่อนจะไปต่อ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าอาวุธชนิดนี้คืออะไร และทำไมมันถึงทรงพลังนัก

โดรนกามิกาเซ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Loitering Munition ซึ่งแปลตรงตัวว่า “อาวุธร่อนสังหาร” หรือ “กระสุนเตร็ดเตร่” มันคือลูกผสมระหว่าง อากาศยานไร้คนขับ (UAV) และ อาวุธปล่อยนำวิถี

แตกต่างจาก “โดรน” ทั่วไปอย่างไร?

  • โดรนทั่วไป (เช่น โดรนสอดแนม) ถูกออกแบบมาให้บินกลับฐานได้หลังจบภารกิจ
  • โดรนกามิกาเซ ถูกออกแบบมาให้เป็นอาวุธใช้แล้วทิ้ง (One-way mission) มันคือตัวโดรนและหัวรบในตัวเดียวกัน เมื่อพบเป้าหมาย มันจะพุ่งเข้าชนและระเบิดตัวเองไปพร้อมกับเป้าหมาย

แตกต่างจาก “ขีปนาวุธ/จรวด” อย่างไร?

  • จรวดหรือขีปนาวุธ เมื่อยิงออกไปแล้วจะพุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่ล็อกไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถเปลี่ยนใจหรือยกเลิกภารกิจได้
  • โดรนกามิกาเซ มีความยืดหยุ่นสูงกว่ามาก มันสามารถบินวน “เตร็ดเตร่” (Loitering) อยู่เหนือพื้นที่เป้าหมายได้นานหลายสิบนาทีหรือเป็นชั่วโมง เพื่อรอคอยโอกาส, ตรวจการณ์, เลือกเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงสุด, หรือแม้กระทั่ง “ยกเลิกภารกิจ” หากเป้าหมายไม่อยู่ในตำแหน่งหรือเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่ไม่พึงประสงค์

ข้อได้เปรียบในสนามรบสมัยใหม่

  • ความแม่นยำสูง ผู้ควบคุมสามารถเห็นภาพเป้าหมายแบบเรียลไทม์จนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนกระทบเป้า ทำให้มีความแม่นยำสูงมาก
  • ราคาถูก มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าอาวุธปล่อยนำวิถีแบบดั้งเดิมหลายเท่าตัว ทำให้สามารถใช้งานได้ในปริมาณมาก
  • ความอยู่รอดสูง มีขนาดเล็ก, บินต่ำ, และมีภาพตัดขวางทางเรดาร์ (Radar Cross-section) ที่เล็ก ทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึกตรวจจับและทำลายได้ยาก
  • สงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เป็นอาวุธที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกองกำลังขนาดเล็กในการต่อกรกับกองทัพขนาดใหญ่ที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าสูง เช่น รถถัง, ปืนใหญ่, หรือระบบเรดาร์

ППО збила всі дрони Росії, що летіли на Київ - Korrespondent.net

บทเรียนจากสมรภูมิโลก ยูเครน-รัสเซีย สนามทดสอบโดรนกามิกาเซ

สงครามยูเครน คือสมรภูมิที่แสดงให้โลกเห็นถึงประสิทธิภาพอันน่าสะพรึงกลัวของอาวุธชนิดนี้อย่างชัดเจนที่สุด

  • Shahed-136 (อิหร่าน/รัสเซีย) โดรนกามิกาเซ่ปีกสามเหลี่ยมที่รัสเซียใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครนอย่างได้ผล ด้วยต้นทุนที่ต่ำและปริมาณที่มหาศาล
  • Switchblade (สหรัฐฯ/ยูเครน) โดรนขนาดเล็กที่สามารถยิงได้จากท่อยิงประทับบ่า คล้ายปืนบาซูก้า ถูกใช้โดยทหารราบยูเครนในการซุ่มโจมตีรถถังและที่มั่นของรัสเซียอย่างแม่นยำ
  • Lancet (รัสเซีย) โดรนอีกรุ่นที่รัสเซียใช้โจมตีปืนใหญ่และยานเกราะของยูเครนอย่างแพร่หลาย

บทเรียนสำคัญจากสงครามครั้งนี้คือ ชาติใดก็ตามที่ไม่มีขีดความสามารถในการใช้หรือป้องกันโดรนกามิกาเซ่ จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวงในสนามรบยุคใหม่ทันที

ศักยภาพของ “โดรนพิฆาต” ไทย เราคาดหวังอะไรได้บ้าง?

สำหรับ “โดรนพิฆาต” ต้นแบบของ DTI แม้ข้อมูลเชิงลึกจะยังไม่ถูกเปิดเผยทั้งหมด แต่เราสามารถคาดการณ์ถึงบทบาทและศักยภาพของมันใน กองทัพไทย ได้ดังนี้

  • ภารกิจหลัก คาดว่าจะถูกนำไปใช้ในภารกิจต่อต้านยานเกราะ, ทำลายที่มั่นทางทหาร, โจมตีศูนย์บัญชาการขนาดเล็ก, หรือแม้กระทั่งทำลายปืนใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม
  • หน่วยผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับหน่วยทหารขนาดเล็ก เช่น หน่วยรบพิเศษ, ทหารพราน, หรือหน่วยลาดตระเวน ที่ต้องการอำนาจการยิงที่แม่นยำและเกินขีดความสามารถของอาวุธประจำกาย
  • การลดความสูญเสีย การใช้โดรนเข้าโจมตีเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง ช่วยลดความจำเป็นในการส่งทหารเข้าปะทะโดยตรง ซึ่งช่วยรักษาชีวิตของกำลังพลได้
  • การส่งออกในอนาคต หากโครงการประสบความสำเร็จและเข้าสู่สายการผลิตจำนวนมาก อาจสามารถต่อยอดไปสู่การส่งออกให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต สร้างรายได้และยกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย

อนาคตของสงคราม เมื่อ “ฝูงโดรน” (Drone Swarm) คือ Game Changer ตัวจริง

โดรนกามิกาเซ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เทคโนโลยีขั้นต่อไปที่ทั่วโลกกำลังจับตามองและเร่งพัฒนาคือ “ฝูงโดรน” (Drone Swarm) ที่โดรนจำนวนมาก (หลายสิบหรือหลายร้อยตัว) สามารถทำงานประสานกันได้เองโดยใช้ AI เพื่อเข้าโจมตีเป้าหมายพร้อมกันจากหลายทิศทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบป้องกันภัยในปัจจุบันรับมือได้ยากอย่างยิ่ง การที่ไทยเริ่มมีองค์ความรู้พื้นฐานจากการพัฒนาโดรนพิฆาตในวันนี้ คือการวางรากฐานที่สำคัญเพื่อก้าวไปสู่เทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ในอนาคต

โดรนกามิกาเซ่" คืออะไร มาจากไหน และจะส่งผลต่อ

บทสรุป ก้าวที่กล้าหาญสู่การพึ่งพาตนเองทางทหาร

ความสำเร็จในการพัฒนา โดรนกามิกาเซ ของ DTI ไม่ใช่เพียงแค่การได้มาซึ่งอาวุธชนิดใหม่ แต่คือสัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลงทางความคิดและยุทธศาสตร์ของกองทัพไทย ที่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของสมรภูมิโลกและหันมาให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศของตนเองอย่างจริงจัง

“โดรนพิฆาต” สัญชาติไทย คือคำตอบของประเทศไทยต่อโจทย์ความมั่นคงแห่งศตวรรษที่ 21 และจะเป็นอีกหนึ่งเขี้ยวเล็บที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ กองทัพไทย สามารถปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

แหล่งที่มาจาก : immersia