ไม่ใช่แค่ ‘สุข’ แต่ต้อง ‘เก่ง’ ด้วย! เจาะเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ‘ยุคแห่งความสามารถ’ (The Competence Era)
หากเทรนด์ก่อนหน้านี้อย่าง “Soft Life” หรือ “Slow Living” คือการที่เราได้กลับมาโอบกอดความสงบสุขและสร้างเกราะป้องกันใจจากความวุ่นวายภายนอก ตอนนี้…เมื่อเรามีฐานที่มั่นทางใจที่แข็งแรงแล้ว คำถามต่อไปคือ “แล้วเราจะใช้พลังงานและเวลาที่เราได้คืนมาทำอะไรต่อ?”
คำตอบที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2025 นี้ คือการก้าวเข้าสู่ ‘ยุคแห่งความสามารถ’ (The Competence Era)
นี่คือเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนไม่ได้มองหาแค่ “ความสุข” หรือ “ความสบาย” เพียงอย่างเดียว แต่ยังโหยหา “ความสามารถ” และ “ความเชี่ยวชาญ” ในด้านต่างๆ ของชีวิต ที่จับต้องได้และสร้างความภาคภูมิใจจากภายในอย่างแท้จริง มันไม่ใช่การกลับไปทำงานหนักสู้ชีวิต (Hustle Culture) แบบเดิมๆ แต่คือการเลือก “เก่ง” ในเรื่องที่สำคัญกับเราจริงๆ ลองมาดูกันว่าเทรนด์นี้ปรากฏในรูปแบบไหนบ้าง
1. Deep Hobbies เปลี่ยนงานอดิเรกผิวเผิน ให้กลายเป็นความเชี่ยวชาญ
มันคืออะไร? คือการยกระดับงานอดิเรกธรรมดาๆ ขึ้นไปอีกขั้น จากแค่ “ทำเพื่อผ่อนคลาย” ไปสู่ “ทำเพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง” คนที่อยู่ในเทรนด์นี้จะไม่แค่ปลูกต้นไม้ แต่จะศึกษาเรื่องค่า pH ของดิน ไม่ใช่แค่ชอบดื่มกาแฟ แต่จะเรียนรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์และศาสตร์การสกัดกาแฟ (Extraction) ไม่ใช่แค่ชอบฟังเพลง แต่หัดเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนั้นจริงๆ
ทำไมถึงฮิต? เพราะมันมอบความรู้สึก “สำเร็จ” และ “ควบคุมได้” ในโลกที่หลายอย่างคาดเดาไม่ได้ การได้เห็นทักษะของตัวเองพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจนเป็นสิ่งที่เติมเต็มความมั่นใจได้ดีเยี่ยม และยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้หลุดออกจากโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์
ลองเริ่มแบบนี้
- เลือก 1 อย่าง จากงานอดิเรกที่คุณมี ลองเลือกมา 1 อย่างที่อยากจะจริงจังด้วย
- ลงลึกขึ้น อ่านหนังสือ, ดูสารคดี, หรือหาคอร์สเรียนสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้น เพื่อเพิ่มความรู้
- หาอุปกรณ์ที่ดีขึ้นเล็กน้อย ไม่ต้องแพงที่สุด แต่การมีเครื่องมือที่เหมาะสมจะทำให้การเรียนรู้สนุกขึ้น
2. Portfolio Life “คุณทำงานอะไร?” สู่ “คุณทำอะไรได้บ้าง?”
มันคืออะไร? คือแนวคิดการสร้าง “พอร์ตโฟลิโอ” ของทักษะและแหล่งรายได้ แทนการมีอาชีพเดียวไปตลอดชีวิต คนๆ หนึ่งอาจจะเป็นพนักงานออฟฟิศในวันธรรมดา, เป็นครูสอนโยคะในวันเสาร์, และขายสินค้าแฮนด์เมดทางออนไลน์ไปด้วย นี่คือการสร้างชีวิตที่ประกอบขึ้นจากหลายๆ ความสามารถ
ทำไมถึงฮิต? เพราะเศรษฐกิจมีความผันผวน การมีทักษะและรายได้จากหลายทางช่วยสร้าง “ความมั่นคง” ที่ยืดหยุ่นกว่า อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่รักหลากหลายอย่าง โดยไม่ต้องเลือกทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งไป
ลองเริ่มแบบนี้
- ลิสต์ทักษะ เขียนทักษะทั้งหมดที่คุณมีออกมา ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
- ลองเปลี่ยนทักษะเป็นเงิน มีทักษะไหนที่พอจะรับงานเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง? (เช่น รับจ้างพิสูจน์อักษร, ออกแบบโลโก้ให้เพื่อน)
- สร้าง Personal Branding เริ่มสร้างตัวตนในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับทักษะที่คุณมี เพื่อเปิดโอกาสในอนาคต
3. Practical Fitness ร่างกายที่ “ใช้งานได้จริง” ไม่ใช่แค่ “ดูดี”
มันคืออะไร? คือการออกกำลังกายที่เน้นสมรรถภาพและความแข็งแรงเพื่อการใช้ชีวิตประจำวันจริงๆ เป้าหมายไม่ใช่แค่การมีซิกซ์แพ็กเพื่อถ่ายรูป แต่คือการมีร่างกายที่แข็งแรงพอจะอุ้มลูกหลาน, ยกของหนักๆ ได้ด้วยตัวเอง, มีแรงเดินเที่ยวได้ทั้งวันโดยไม่เหนื่อย หรือมีร่างกายที่เคลื่อนไหวได้ดีไปจนแก่
ทำไมถึงฮิต? ผู้คนเริ่มมองว่าสุขภาพที่ดีคือความสามารถอย่างหนึ่ง การมีร่างกายที่แข็งแรงคืออิสระที่ทำให้เราทำอะไรต่างๆ ในชีวิตได้เต็มที่ การออกกำลังกายแนว Functional Training, ปีนผา, หรือ Calisthenics (การใช้แรงต้านจากน้ำหนักตัว) จึงได้รับความนิยมมากขึ้น
ลองเริ่มแบบนี้
- ตั้งเป้าหมายที่จับต้องได้ เช่น “ฉันจะวิดพื้นให้ได้ 10 ครั้ง” หรือ “ฉันจะยกกระเป๋าเดินทางขึ้นที่เก็บของบนเครื่องบินได้เอง”
- ผสมผสานการออกกำลังกาย ลองเพิ่มการฝึกที่เน้นความแข็งแรง (Strength) และความยืดหยุ่น (Mobility) เข้าไปในตาราง
- ขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน เลือกเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์, เดินไปร้านสะดวกซื้อแทนการขับรถ
4. Financial Competence ไม่ใช่แค่ “ออม” แต่ต้อง “ต่อยอด” เป็น
มันคืออะไร? เป็นขั้นกว่าของ Loud Budgeting (การคุมงบ) นี่คือยุคที่ผู้คนมองว่า “ความรู้ทางการเงิน” (Financial Literacy) เป็นทักษะสำคัญที่ต้องมีติดตัว ไม่ใช่แค่การประหยัดเงิน แต่คือการศึกษาหาความรู้เพื่อนำเงินออมไปลงทุนให้งอกเงย, เข้าใจเรื่องภาษี, การบริหารหนี้สิน และการวางแผนเกษียณอย่างจริงจัง
ทำไมถึงฮิต? เพราะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้คนตระหนักว่า แค่ทำงานเก็บเงินในธนาคารอาจไม่เพียงพอสำหรับอนาคต การมีความสามารถในการบริหารจัดการและต่อยอดเงินของตัวเอง คือการสร้างอำนาจและความมั่นคงให้ชีวิตอย่างแท้จริง
ลองเริ่มแบบนี้
- อ่าน/ฟัง วันละนิด เริ่มจากติดตามนักวางแผนการเงินหรือเพจให้ความรู้การลงทุนที่เชื่อถือได้
- เปิดบัญชีลงทุน เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยๆ ในกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) เพื่อสร้างความคุ้นเคย
- ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวมและเข้าใจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองอย่างแท้จริง
บทสรุปส่งท้าย
‘ยุคแห่งความสามารถ’ ไม่ได้บอกให้เรากลับไปเครียดหรือกดดันตัวเองเพื่อความสมบูรณ์แบบ แต่มันคือการเปลี่ยนโฟกัสจากการดูแลตัวเองเชิง “ป้องกัน” (Self-Care) ไปสู่การสร้างตัวเองเชิง “รุก” (Self-Empowerment) คือการค้นพบความสุขและความภูมิใจที่ได้พูดว่า… “สิ่งนี้ ฉันทำได้ และฉันทำมันได้ดีด้วย”
มันคือการสร้างชีวิตที่ไม่เพียงน่าอยู่และสงบสุข แต่ยังเป็นชีวิตที่ “แข็งแกร่ง” พร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย และเต็มไปด้วยศักยภาพที่เราสร้างขึ้นมาด้วยมือของเราเอง
กลับหน้าแรก : immersia